SDEMTA

การเจาะคอ (Tracheostomy) เป็นการรักษาแบบที่จะต้องเปิดท่อทางเดินหายใจในส่วนต้น โดยจะทำการรักษาด้วยวิธีนี้กับผู้ป่วยที่มีภาวะทางการหายใจในส่วนบนถูกปิดกั้นไป ทำให้ไม่สามารถหายใจได้จากทางจมูกและปาก การทำเช่นนี้จะเป็นการย้ายตำแหน่งของการหายใจในระหว่างผิวหนัง และหลอดลม ที่อยู่ในบริเวณด้านหน้าของลำคอ ซึ่งเป็นส่วนที่อยู่ตรงใต้กล่องเสียง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาการอุดกั้นของระบบทางเดินทางใจ และการดูแลในเรื่องของเสมหะ และในส่วนของผู้ที่ต้องทำการดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้านนั้น จะต้องทำอย่างไรบ้าง ในบทความนี้จะมาบอกให้ได้รู้กัน 

การดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้าน ต้องทำอย่างไรบ้าง  

สำหรับการดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้านนั้น ในช่วงสัปดาห์แรกของการเจาะคอ แพทย์จะทำการติดตามอาการของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดก่อน เพื่อคอยตรวจสอบว่ามีอาการผิดปกติอะไรเกิดขึ้นบ้างหรือไม่ เนื่องจากว่าหลังจากที่มีการเจาะคอแรก ๆ จะเป็นช่วงที่ผู้ป่วยมีความเสี่ยงมากที่สุดที่ท่อจะหลุดออกมาได้ อีกทั้งยังเป็นห่วงในเรื่องของความสะอาดที่ถือว่าสำคัญกับผู้ป่วยมาก ๆ หลังจากนั้นแล้วเมื่อผ่านไปครบ 1 สัปดาห์ของการเจาะคอ แพทย์ก็จะอนุญาตให้ผู้ป่วยกลับบ้าน เพื่อไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ 

ในการรักษาด้วยการเจาะคอนั้น เป็นสิ่งที่แพทย์ทำเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเมื่อต้องอยู่ที่บ้าน เนื่องจากว่าการเจาะคอเป็นสิ่งที่สามารถดูแลได้ไม่ยากนัก และยังเป็นวิธีที่จะช่วยลดความเสี่ยงของการเลื่อนหลุดได้ดีมากกว่า ซึ่งวิธีการดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้าน ก็สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ 

1. ก่อนอื่นผู้ที่ดูแลจะต้องทำการล้างมือของตัวเองให้สะอาด โดยจะต้องล้างทั้งก่อน และหลังจากที่ดูแลผู้ป่วย 

2. ผู้ดูแลจะต้องนำเอาแอลกอฮอล์มาเช็ดทำความสะอาดบริเวณข้อต่อต่าง ๆ  

3. ผู้ดูแลควรที่จะต้องจัดท่าให้กับผู้ป่วย และหมั่นพลิกตัวให้กับผู้ป่วยทุก ๆ 2 ชั่วโมง เพื่อเป็นการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถหายใจได้สะดวก และง่ายมากขึ้น 

4. ผู้ดูแลจะต้องคอยสังเกต และดูอยู่เสมอ ให้ท่อหลอดลมคอนั้นยังอยู่กับที่ ไม่ได้เคลื่อน หรือหลุดไปไหน 

5. ผู้ดูแลจะต้องหมั่นฟังเสียงการทำงานของเครื่องช่วยหายใจอยู่เสมอ 

6. ผู้ดูแลจะต้องหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยที่เกิดขึ้น 

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ก็เป็นวิธีการในการดูแลผู้ป่วยเจาะคอที่บ้าน โดยจะเห็นได้ว่าเป็นการดูแลที่ไม่ยาก แต่เพียงแค่ว่าต้องอาศัยในเรื่องของการหมั่นสังเกต และคอยดูอยู่บ่อย ๆ เพื่อที่จะไม่ให้เกิดอันตรายกับผู้ป่วยตามมา ทั้งนี้หากว่าพบอาการของผู้ป่วยผิดปกติ ก็ให้รีบไปพบแพทย์โดยด่วน